อาการปวดในกระดูก ภัยร้ายที่ไม่ควรมองข้าม

จริงหรือไม่? ที่ว่าใครๆก็ไม่อยากให้อาการเจ็บป่วยเกิดขึ้นกับตัวเองและคนที่คุณรัก เพราะอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นนั้นไม่เพียงแต่เป็นสัญญาณบ่งบอกความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายแล้ว ยังหมายถึงการเป็นต้นเหตุของโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆที่ตามมาอีกด้วย ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่า ปัญหาโรคต่างๆที่ทำให้เกิดอาการปวดในกระดูกมีอะไรบ้าง และเราสามารถแก้ไขได้อย่างไร

สารบัญ

ดูสรุปเนื้อหาในบทความได้ในวิดีโอนี้

ต้นตอของการเจ็บปวดตามร่างกาย

อาการปวดกระดูก หรือ Bone Pain เป็นอาการที่พบได้บ่อยๆ ไม่ว่าจะกำลังเคลื่อนไหวอยู่ หรือไม่เคลื่อนไหวอยู่ก็ตาม ซึ่งอาการปวดเหล่านี้จะเกิดขึ้นบริเวณกระดูก ทำให้รู้สึกไม่สบายตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากกดแล้วมีอาการเจ็บอย่างรุนแรง แสดงว่าอาจจะเกิดอาการผิดปกติขึ้นแล้ว

เป็นสาเหตุของโรคร้ายที่คาดไม่ถึง!

โดยปกติแล้วแพทย์จะทำการรักษาอาการปวดกระดูกตามสาเหตุ แล้วถ้าอยู่ดีๆก็ปวด ไม่รู้ทำไมล่ะ? ถึงแม้ว่าจะไม่ทราบสาเหตุของอาการเจ็บปวดเหล่านี้ก็ไม่ควรมองข้ามเพราะอาการปวดในกระดูกจะกลายเป็นสาเหตุของโรคร้ายที่คุณคาดไม่ถึง ดังต่อไปนี้

1.โรคเก๊าท์

โรคเก๊าท์ เป็นอาการปวดร้อน บวมแดงแบบเฉียบพลันที่เกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ ซึ่งเกิดจากภาวะกรดยูริกในเลือดสูงติดต่อกันเป็นเวลานานจนเกิดเป็นผลึก สะสมอยู่ตามข้อ หากปล่อยปละละเลยอาการจะรุนแรงมากขึ้น กลายเป็นโรคข้ออักเสบเรื้อรังและโรคแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น โรคไต โรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะและโรคไตวาย โดยผู้ป่วยโรคเก๊าท์มักมีอาการปวดเข่า ปวดตามข้อต่างๆ เจ็บข้อเท้า

2. โรคข้อเสื่อม

โรคข้อเสื่อม เป็นอาการปวดที่เกิดจากการเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการนั่งนานๆ อายุ หรือน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้น โรคนี้จะทำให้กระดูกอ่อนสึกกร่อน เหยียดงอได้ไม่สุด เมื่อปล่อยปละละเลยเป็นเวลานาน กระดูกจะโก่งงอผิดรูปอย่างชัดเจน ในขณะที่ลุกจากท่านั่งก็จะมีอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรงร่วมด้วย ศึกษาเพิ่มเติมเพื่อดูว่าจะ

เลือกรับประทานอาหารแก้โรคข้อเข่าเสื่อม กินอะไรดีได้ที่นี่

3. โรคมะเร็งกระดูก

ผู้ป่วยโรคมะเร็งกระดูก เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในร่างกายไปเป็นเซลล์มะเร็ง ค่อยๆเติบโตขึ้นและแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ นับว่าเป็นอีกหนึ่งโรคที่มีความรุนแรงสูงและแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว โดยมักมีอาการปวดอย่างรุนแรงในเวลากลางคืน หากคลำดูบริเวณแขนขาและกระดูกก็จะพบก้อนเนื้อ ซึ่งหากไม่ได้ทำการรักษาอย่างทันท่วงที มะเร็งจะแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆและไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้

4. โรคเอส แอล อี หรือ SLE

ผู้ป่วยโรคเอส แอล อี หรือ SLE เป็นโรคเรื้อรังที่เกิดขึ้นกับอวัยวะหรือระบบในร่างกาย โดยแสดงออกอาการปวดทางข้อและกล้ามเนื้อ บางครั้งผิวหนังบวมแดงร่วมด้วยและเป็นอันตรายร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

5. โรครูมาตอยด์

ผู้ป่วยโรครูมาตอยด์ เป็นอาการปวดข้อที่รบกวนชีวิตประจำวัน มักจะปวดที่ข้อมือและข้อนิ้วมือ นอกจากนี้ยังมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร มีไข้ต่ำ ตาและปากแห้งร่วมด้วยได้ สาเหตุเกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิต้านทาน สามารถบรรเทาอาการปวดได้แต่ไม่สามารถรักษาให้หายขาด หากปล่อยทิ้งไว้กระดูกจะถูกทำลายจนผุกร่อนและเสียสมดุลของกล้ามเนื้อจนเกิดความพิการได้

คุณเคยมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นบ้างหรือไม่?

ลองมาเช็คร่างกายของคุณดูว่า คุณเคยมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นบ้างหรือไม่?

  • เคยได้รับบาดเจ็บมาก่อน อาจจะมีอาการปวดกระดูก บวม กระดูกหัก กระดูกผิดรูป อาการกระดูกร้าวและมีเสียงกระดูกดังก๊อบแก๊บขณะเคลื่อนไหว วิ่งแล้วปวดหน้าแข้ง มีปัญหาเท้าบวม
  • มีอาการปวดกล้ามเนื้อ เป็นตะคริว อ่อนเปลี้ยเพลียแรงและร่างกายอ่อนแอร่วมด้วย
  • ลองคลำบริเวณที่เจ็บปวดดูแล้วพบก้อนใต้ผิวหนัง มีอาการชาและกดเบียดเส้นประสาท
  • ผิวหนังบวมแดงและมีอาการปวดตามข้อ เช่น ปวดหลัง ปวดกระดูกสันหลัง ปวดเอว ปวดหัวเข่า ปวดท้ายทอย ปวดข้อมือ ปวดหลังส่วนล่างปวดสะโพก ปวดแขน ปวดนิ้วมือ เป็นต้น
  • อาการเจ็บปวดเริ่มรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น เจ็บปวดมากขณะเคลื่อนไหว ทำให้การเคลื่อนไหวลำบาก ร่างกายอ่อนล้า คั่นเนื้อคั่นตัว ปวดกล้ามเนื้อ ขาไม่มีแรง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เป็นต้น

หากคุณมีอาการอย่างน้อย 1 ใน 5 ข้อที่ได้กล่าวมา นั่นหมายถึงสัญญาณบ่งบอกปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ดังนั้นคุณจึงไม่ควรละเลยสัญญาณอันตรายเหล่านี้

อย่างไรก็ตาม การรักษาอาการปวดในกระดูกในทางการแพทย์ ได้แก่ การเอกซเรย์กระดูก MRI Scan, การตรวจเลือด, ตรวจปัสสาวะและให้ยารักษาตามอาการก็ยังคงเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ มันจะดีกว่าไหม? หากคุณจะเริ่มต้นดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ด้วย D-boone ที่ตอบโจทย์ของคุณได้มากที่สุด

ดีบูน หรือ ดีบูเน่ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมมาจากสารสกัดธรรมชาติแท้ ปลอดภัยและไม่มีสารตกค้างในร่างกาย ด้วยกระบวนการการผลิตที่มีมาตรฐานการผลิตระดับสากลอย่าง ISO9001 และได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศไทย

ดีบูเน่จะช่วยเสริมสร้าง บำรุงกระดูกให้แข็งแรง พร้อมกันนี้ยังช่วยเพิ่มการผลิตน้ำหล่อเลี้ยงบริเวณข้อต่อ บรรเทาอาการปวดข้อต่อบริเวณต่างๆในร่างกาย ได้แก่ ปวดหลังช่วงเอว ปวดกระดูกสันหลัง ปวดข้อมือ ปวดตามข้อนิ้วมือ ปวดหัวเข่า ปวดข้อเท้า ปวดข้อศอก อาการเจ็บซี่โครง เป็นต้น ถึงแม้ว่าดีบูเน่จะไม่ใช่ยารักษาโรคแต่การรับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมดีบูเน่เป็นประจำทุกวันร่วมกับปฏิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างเคร่งครัดจะช่วยให้คุณหมดกังวลกับปัญหาเรื่องอาการปวดในกระดูกไปได้เยอะเลย

มาดูกันว่าอาการปวดกระดูกจะลดลงได้อย่างไรในวิดีโอนี้

อย่าปล่อยให้ร่างกายของคุณเสื่อมสภาพไปวันๆ ไม่ว่าจะมีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป หรือต้องทำงานแข่งขันกับเวลา ให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดีบูเน่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการฟื้นฟูสุขภาพกระดูกและข้อต่อให้กลับมาทำงานเป็นปกติอีกครั้ง พร้อมทั้งบำรุงสุขภาพของคุณให้แข็งแรง สมวัย ออกกำกายเป็นประจำ สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์บำรุงกระดูกและข้อต่อ คลิกที่นี่

สอบถามเพิ่มเติม / ปรึกษาฟรี